Tuesday, May 7, 2013

การปฏิสนธิ

  • เมื่อไข่ตกจากรังไข่แล้ว จะเคลื่อนตัวไปตามท่อรังไข่ ซึ่งเยื่อบุท่อรังไข่จะมีขนช่วยพัดโบก และ นำพาไข่ไปจนถึงตำแหน่งที่จะพบกับอสุจิ ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์จนถึงจุดสุดยอด ฝ่ายชายจะ หลั่งน้ำอสุจิ ซึ่งมีสเปิร์มถึง 400-500 ล้านตัวเข้าสู่ช่องคลอดของฝ่ายหญิง
  • เมื่อฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิเข้าสู่ช่องคลอดของฝ่ายหญิง สเปิร์มจะผ่านเข้าสู่โพรงมดลูก และผ่าน ไปยังท่อนำไข่และปีกมดลูก โดยปกติอสุจิจะเดินทางด้วยอัตรา 2-3 มิลลิเมตรต่อนาที แต่สเปิร์ม จะเคลื่อนที่ช้าลงในช่องคลอดที่มีสภาพเป็นกรด และเคลื่อนที่เร็วขึ้นเมื่อผ่านจากปากมดลูกเข้า ไปในโพรงมดลูกที่มีความเป็นด่าง ซึ่งกว่าอสุจิจะผ่านพ้นเข้าไปในท่อรังไข่ได้นั้น จำนวนอสุจิ 400-500 ล้านตัวในขณะหลั่ง จะเหลือรอดได้เพียงไม่กี่ร้อยตัวที่มีโอกาสไปผสมไข่ ส่วนหัวของอสุจิจะปล่อยสารย่อย (Enzyme) ซึ่งสามารถละลายผนังที่ห่อหุ้มปกป้องไข่ออกได้ และจะมีอสุจิเพียงตัวเดียวที่เจาะเข้าสู่ไข่ได้สำเร็จ อสุจิตัวอื่นๆ จะไม่สามารถเข้าไปได้อีก จาก นั้นอสุจิจะสลัดหางและย่อยส่วนหัว เพื่อปลดปล่อยโครโมโซมทั้ง 23 แท่งที่บรรจุอยู่ภายในส่วน หัวเข้าสู่ไข่ เพื่อจับคู่ของตัวเองกับโครโมโซมอีก 23 แท่งในไข่ และหลอมรวมตัวกันกลายเป็น เซลล์เซลล์เดียว เรียกว่า เกิดการปฏิสนธิขึ้น
  • หลังไข่เกิดการปฏิสนธิ เซลล์จะมีการแบ่งตัวทวีคูณในเวลาอันรวดเร็ว จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 8 จาก 8 เป็น 16 ฯลฯ การแบ่งตัวเกิดอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ไข่ผสมแล้ว (Embryo – ตัวอ่อน) เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ และภายในเวลา 7 วัน จะเคลื่อนไปถึงตำแหน่งที่จะฝังตัวลงใน เยื่อบุโพรงมดลูก ไข่ที่ผสมแล้วจะมีลักษณะกลม โดยประกอบด้วยเซลล์ประมาณ 100 เซลล์ เมื่อ ไข่ที่ผสมแล้ว (ตัวอ่อน) ฝังตัวลงในเยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งมีลักษณะนุ่มและหนา เมื่อยึดเกาะกันมั่น คงดี จึงจะถือได้ว่าการปฏิสนธิเป็นไปอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์
  • ไข่ที่ผสมแล้ว (ตัวอ่อน - Embryo) จะยื่นส่วนอ่อนนุ่มแทรกลึกลงไปในผนังมดลูก เพื่อสร้างทางติด ต่อกับเลือดของแม่ และจะเจริญเป็นรกสร้างสาย สะดือและถุงน้ำคร่ำห่อหุ้มต่อไป ซึ่งตัวอ่อน จะมี เนื้อเยื่อพิเศษ 3 ชั้น ซึ่งต่อไปแต่ละชั้นจะสร้าง เป็น อวัยวะต่างๆ ของร่างกายทารกน้อย
ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก : http://www.thaigoodview.com